007 : SPECTRE
องค์กรลับ ดับพยัคฆ์ร้าย
กำกับโดย : Sam Mendes
นักแสดง : Daniel
Craig, Christoph Waltz, Lea Seydoux, Ben Whishaw, Naomie Harris, Dave Buatista,
Andrew Scott, Monica Bellucci, Ralph Fiennes
ผลิตโดย : Eon Productions
จัดจำหน่าย : Metro-Goldwyn-Mayer and Columbia
Pictures
วันที่เข้าฉาย : November 6’ 2015
เวลาฉาย : 148 Minutes
ทุนสร้าง : $250 Million
รายได้ :
$875.9 Million (Box Office)
เพลงประกอบภาพยนตร์
เมื่อวันที่
8 กันยายน
พ.ศ. 2558 มีการประกาศว่าแซม
สมิธ นักร้องชาวอังกฤษ จะร้องเพลงประจำภาพยนตร์ ซึ่งมีชื่อว่า "Writing's On The Wall"
โดยเพลงนี้ได้เผยแพร่ในวันที่
25 กันยายน
ปีเดียวกัน
เพลงนี้ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ
สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์เซนต์หลุยส์เกตเวย์
(St. Louis Gateway Film
Critics Association Awards 2015) สาขาเพลงยอดเยี่ยม
องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย
(007 : Spectre) เป็นภาพยนตร์แนวสายลับลำดับที่ 24
ในชุดเจมส์ บอนด์ โดย “แซม เมนเดส”
กลับมากำกับอีกครั้ง หลังจากตอน “พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย 007” ส่วนพระเอกเจมส์ บอนด์ “แดเนียล เคร็ก” ก็ยังรับบทสายลับ
เจมส์ บอนด์ เป็นครั้งที่ 4 แล้ว และมีนักแสดงสมทบ คือ คริสทอฟ วัลซ์, เลอา แซดู, เรล์ฟ ไฟนส์ และเดฟ บาติสตา
เมื่อวันที่ 4
ธันวาคม พ.ศ. 2557
มีการจัดแถลงข่าว พร้อมทั้งเปิดเผยชื่อตอน และเหล่านักแสดง โดย “สเปกเตอร์” เป็นชื่อองค์กรฝ่ายร้ายในบทประพันธ์ดั้งเดิม
ที่เขียนโดย “เอียน เฟลมมิง” องค์กรนี้ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายใน 007
เพชรพยัคฆราช (Diamonds
Are Forever) แต่เนื่องจาก 007
พยัคฆ์ร้ายเดิมพันระห่ำโลก (Casino Royale) เป็นภาคที่เริ่มต้นใหม่ จึงถือว่าภาคนี้เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของสเปกเตอร์
007 Spectre : องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย
เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดเป็นอันดับที่
9 ด้วยทุนสร้างกว่า
245 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
และได้รับการบันทึกลงในสถิติโลก “กินเนสส์บุคส์” ว่ามีฉากระเบิดที่ใช้พื้นที่กว้างที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
โดยโปสเตอร์มี “แดเนียล เครก” แต่งกายคล้าย “โรเจอร์ มัวร์” เมื่อครั้งเป็นเจมส์
บอนด์ใน พยัคฆ์มฤตยู 007
ยืนถือปืนอยู่
Trailers
007 Spectre : องค์กรลับ
ดับพยัคฆ์ร้าย
เรื่องย่อ :
บอนด์
เดินทางไปเม็กซิโก เพื่อทำภารกิจที่สั่งอย่างไม่เป็นทางการจาก M คนก่อน
เขาจัดการชายสองคนที่วางแผนจะระเบิดสนามกีฬา และไล่ตามมาร์โค
ชาร์ราไปจนสู้กันบนเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่บอนด์จะขโมยแหวนวงหนึ่งจากชาร์รา
เมื่อกลับมาที่ลอนดอน บอนด์ถูก M คนใหม่สั่งพักงาน
บอนด์พบว่าตอนนี้ M กำลังแย่งชิงอำนาจการบริหารหน่วยสืบราชการลับกับแมกซ์
เดนบี หรือ C โดย C มีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายข้อมูลลับระหว่างประเทศและยุบหน่วยสายลับรหัส
"00"
บอนด์ขัดคำสั่ง
M แล้วเดินทางไปที่โรมเพื่อร่วมงานศพของมาร์โค
ชาร์รา เขาติดตามลูชีอา ชาร์รา ภรรยาม่ายของมาร์โคไป
โดยเธอบอกบอนด์ว่าจะมีการประชุมลับขององค์กรที่สามีเธอสังกัดอยู่
บอนด์ใช้แหวนของชาร์ราลอบเข้าไปในการประชุม
แต่ถูกจำหน้าได้จึงหลบหนีออกมาโดยมีมิสเตอร์ฮิงซ์ไล่ตาม ขณะเดียวกัน
มิสมันนีเพนนีบอกบอนด์ว่าข้อมูลในการประชุมที่บอนด์ได้ยินมาพาไปหามิสเตอร์ไวต์
อดีตสมาชิกควอนตัม องค์กรย่อยขององค์กรที่บอนด์ลอบเข้าไป
ส่วนบอนด์ขอให้มิสมันนีเพนนีช่วยสืบหาคนที่ชื่อ ฟรันซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์
บอนด์เดินทางไปออสเตรียเพื่อพบกับไวต์
ผู้ซึ่งกำลังจะตายด้วยพิษแทลเลียม ไวต์ขอให้บอนด์ช่วยปกป้องแมเดเลน สวอนน์
ลูกสาวของเขาเพื่อแลกกับข้อมูลที่ตนรู้ บอนด์เดินทางไปพบสวอนน์
ซึ่งถูกฮิงซ์จับตัวไป บอนด์ใช้เครื่องบินไล่ตาม ก่อนจะพาตัวสวอนน์ออกมาได้สำเร็จ
ทั้งสองคนไปหา Q ซึ่งตรวจสอบแหวนที่บอนด์ขโมยมา
แล้วพบข้อมูลเชื่อมโยงถึงโอเบอร์เฮาเซอร์ สวอนน์บอกบอนด์และ Q ว่าองค์กรนี้มีชื่อว่า
"สเปกเตอร์" (SPECTRE)
ทั้งคู่เดินทางไปที่ห้องพักที่ไวต์มาทุกปีที่โมร็อกโก
แล้วพบว่ามีห้องลับภายในที่ไวต์ใช้เก็บข้อมูลต่างๆ
บอนด์ใช้ข้อมูลดังกล่าวเดินทางต่อไปยังจุดหมายด้วยรถไฟ แต่ขณะโดยสาร บอนด์และสวอนน์ถูกฮิงซ์บุกเข้ามาทำร้าย
บอนด์และฮิงซ์สู้กันจนฝ่ายหลังตกรถไฟไป เมื่อไปถึงจุดหมาย
บอนด์และสวอนน์พบว่าเป็นกลุ่มอาคารกลางทะเลทราย และพบกับฟรันซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์
ผู้เป็นลูกชายของฮันส์ โอเบอร์เฮาเซอร์ ผู้อุปการะบอนด์ตอนเด็ก โอเบอร์เฮาเซอร์จับบอนด์ไปทรมานแล้วเปิดเผยว่า
C เป็นส่วนหนึ่งของสเปกเตอร์
พร้อมทั้งเผยว่าตนชื่อ "เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์"
ซึ่งเป็นชื่อใหม่หลังจากแกล้งตายไปเมื่อ 20
ปีก่อน บอนด์และสวอนน์หลบหนีออกมาได้และระเบิดกลุ่มอาคารดังกล่าว
บอนด์และสวอนน์เดินทางกลับไปที่ลอนดอนเพื่อพบกับ
M, บิล แทนเนอร์, Q และมันนีเพนนี
ทั้งหมดบุกเข้าไปจับกุม C และหาทางหยุดเครือข่ายข้อมูลของ
C และ M กับ C สู้กันจน C ตกตึกเสียชีวิต
ส่วนบอนด์และสวอนน์ถูกลักพาตัวไป บอนด์หนีรอดมาได้แล้วพบกับโบลเฟลด์
ซึ่งบอกบอนด์ว่าเขาจับตัวสวอนน์ไปขังไว้ในตึก MI6
เก่าแล้ววางระเบิดไว้
บอนด์หาทางช่วยสวอนน์ออกมาได้ ก่อนระเบิดจะทำงาน และไล่ตามเฮลิคอปเตอร์ของโบลเฟลด์
บอนด์ใช้ปืนยิงจนเฮลิคอปเตอร์ตก
ในที่สุดโบลเฟลด์ก็ถูก M จับกุม
ส่วนบอนด์ผละออกมาพร้อมกับสวอนน์
เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ..
ขอเชิญติดตามต่อได้ในภาพยนตร์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น